อินดิโก หรืออินดิโกไดรเวช (Indigo dye) เป็นสีย้อมสีน้ำเงินเข้มที่ได้มาจากการสกัดจากพืชในวงศ์ Fabaceae โดยเฉพาะอย่างยิ่ง indigo plant หรือ Indigofera tinctoria และ Spilanthes acmella
คุณสมบัติของอินดิโก
อินดิโกมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการที่ทำให้เป็นสีย้อมที่มีมูลค่าสูง:
-
สีที่ทนทาน: อินดิโกให้สีน้ำเงินเข้มที่คงทนต่อการซีดจางจากแสงแดดและการซัก
-
กันเชื้อรา: สารอินดิโกมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ทำให้เหมาะสำหรับการย้อมผ้าที่ต้องการความสะอาด
-
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: อินดิโกเป็นสีย้อมจากธรรมชาติ ที่สามารถย่อยสลายได้อย่างง่ายดายและไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
การใช้งานของอินดิโก
อินดิโกถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
-
อุตสาหกรรมสิ่งทอ: อินดิโกเป็นสีย้อมที่นิยมใช้ในการย้อมผ้าฝ้าย, ผ้าลินิน และผ้าไหม เพื่อให้ได้สีน้ำเงินเข้มที่สวยงามและคงทน
-
อุตสาหกรรมย้อมหนัง: อินดิโกยังสามารถใช้ในการย้อมหนังเพื่อให้ได้สีน้ำเงินที่เป็นเอกลักษณ์
-
งานศิลปะและงานฝีมือ: อินดิโกถูกนำมาใช้ในการทำสีสำหรับงานศิลปะและงานฝีมือต่างๆ เช่น การทอ, การปัก และการวาดภาพ
กระบวนการผลิตอินดิโก
การผลิตอินดิโกจากพืช indigo plant เริ่มต้นจากการเก็บเกี่ยวใบของพืชแล้วนำมาทำการหมักในน้ำ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและสร้างสารอินดิโกไดรเวชขึ้นมา จากนั้นจะนำสารที่ได้ไปผ่านกระบวนการ tinh chếเพื่อแยกเอาอินดิโกบริสุทธิ์
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของอินดิโกกับสีย้อมสังเคราะห์อื่นๆ
คุณสมบัติ | อินดิโก | สีย้อมสังเคราะห์ |
---|---|---|
สีที่ได้ | น้ำเงินเข้ม | หลากหลายสี |
ความทนทาน | สูง | ระดับความทนทานแตกต่างกันไป |
ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม | สูง | ต่ำ |
ค่าใช้จ่าย | สูงกว่าสีย้อมสังเคราะห์ | ต่ำกว่าอินดิโก |
ข้อดีและข้อเสียของการใช้อินดิโก
ข้อดี:
-
สีที่ได้มีความสวยงามและคงทน
-
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
มีคุณสมบัติต้านเชื้อรา
ข้อเสีย:
- ค่าใช้จ่ายในการผลิตสูงกว่าสีย้อมสังเคราะห์
- กระบวนการผลิตค่อนข้างซับซ้อน
อินดิโกเป็นตัวอย่างของวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีศักยภาพสูงในการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต การที่ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้สีย้อมอินดิโกได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง